เมนู

อุเปกฺขา ธุรสมาธีติ ธุรสฺส สมาธิ, อุนฺนโตนตาการสฺส อภาเวน ทฺวินฺนมฺปิ ยุคปเทสานํ สมตาติ อตฺโถฯ อยญฺหิ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา จิตฺตุปฺปาทสฺส ลีนุทฺธจฺจภาวํ หริตฺวา ปโยคมชฺฌตฺเต จิตฺตํ ฐเปติ, ตสฺมา อิมสฺส มคฺครถสฺส ‘‘ธุรสมาธี’’ติ วุตฺตาฯ อนิจฺฉา ปริวารณนฺติ พาหิรกรถสฺส สีหจมฺมาทีนิ วิย อิมสฺสาปิ อริยมคฺครถสฺส อโลภสงฺขาตา อนิจฺฉา ปริวารณํ นามฯ

อพฺยาปาโทติ เมตฺตา จ เมตฺตาปุพฺพภาโค จฯ อวิหิํสาติ กรุณา จ กรุณาปุพฺพภาโค จฯ วิเวโกติ กายวิเวกาทิ ติวิธวิเวโกฯ ยสฺส อาวุธนฺติ ยสฺส อริยมคฺครเถ ฐิตสฺส กุลปุตฺตสฺส เอตํ ปญฺจวิธํ อาวุธํฯ ยถา หิ รเถ ฐิโต ปญฺจหิ อาวุเธหิ สปตฺเต วิชฺฌติ, เอวํ โยคาวจโรปิ อิมสฺมิํ โลกิยโลกุตฺตรมคฺครเถ ฐิโต เมตฺตาย โทสํ วิชฺฌติ, กรุณาย วิหิํสํ , กายวิเวเกน คณสงฺคณิกํ, จิตฺตวิเวเกน กิเลสสงฺคณิกํ, อุปธิวิเวเกน สพฺพากุสลํ วิชฺฌติฯ เตนสฺเสตํ ปญฺจวิธํ ‘‘อาวุธ’’นฺติ วุตฺตํฯ ติติกฺขาติ ทุรุตฺตานํ ทุราคตานํ วจนปถานํ อธิวาสนกฺขนฺติฯ จมฺมสนฺนาโหติ สนฺนทฺธจมฺโมฯ ยถา หิ รเถ ฐิโต รถิโก ปฏิมุกฺกจมฺโม อาคตาคเต สเร ขมติ, น นํ เต วิชฺฌนฺติ, เอวํ อธิวาสนกฺขนฺติสมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาคตาคเต วจนปเถ ขมติ, น นํ เต วิชฺฌนฺติฯ ตสฺมา ‘‘ติติกฺขา จมฺมสนฺนาโห’’ติ วุตฺโตฯ โยคกฺเขมาย วตฺตตีติ จตูหิ โยเคหิ เขมาย นิพฺพานาย วตฺตติ, นิพฺพานาภิมุโข คจฺฉติเยว, น ติฏฺฐติ น ภิชฺชตีติ อตฺโถฯ

เอตทตฺตนิ สมฺภูตนฺติ เอตํ มคฺคยานํ อตฺตโน ปุริสการํ นิสฺสาย ลทฺธตฺตา อตฺตนิ สมฺภูตํ นาม โหติฯ พฺรหฺมยานํ อนุตฺตรนฺติ อสทิสํ เสฏฺฐยานํฯ นิยฺยนฺติ ธีรา โลกมฺหาติ เยสํ เอตํ ยานํ อตฺถิ, เต ธีรา ปณฺฑิตปุริสา โลกมฺหา นิยฺยนฺติ คจฺฉนฺติฯ อญฺญทตฺถูติ เอกํเสนฯ ชยํ ชยนฺติ ราคาทโย สปตฺเต ชินนฺตา ชินนฺตาฯ

5-6. กิมตฺถิยสุตฺตาทิวณฺณนา

[5-6] ปญฺจเม อยเมวาติ เอวสทฺโท นิยมตฺโถฯ เตน อญฺญํ มคฺคํ ปฏิกฺขิปติฯ อิมสฺมิํ สุตฺเต วฏฺฏทุกฺขญฺเจว มิสฺสกมคฺโค จ กถิโตฯ ฉฏฺฐํ อุตฺตานเมวฯ

7. ทุติยอญฺญตรภิกฺขุสุตฺตวณฺณนา

[7] สตฺตเม นิพฺพานธาตุยา โข เอตํ ภิกฺขุ อธิวจนนฺติ อสงฺขตาย อมตาย นิพฺพานธาตุยา เอตํ อธิวจนํฯ อาสวานํ ขโย เตน วุจฺจตีติ อปิจ เตน ราคาทิวินเยน อาสวานํ ขโยติปิ วุจฺจติฯ อาสวกฺขโย นาม อรหตฺตํ, อรหตฺตสฺสาปิ เอตํ ราควินโยติอาทิ นามเมวาติ ทีเปติฯ เอตทโวจาติ ‘‘สตฺถารา นิพฺพานธาตูติ วทนฺเตน อมตํ นิพฺพานํ กถิตํ, มคฺโค ปนสฺส น กถิโตฯ ตํ กถาเปสฺสามี’’ติ อนุสนฺธิกุสลตาย ปุจฺฉนฺโต เอตํ อโวจฯ

8. วิภงฺคสุตฺตวณฺณนา

[8] อฏฺฐเม กตมา จ ภิกฺขเว สมฺมาทิฏฺฐีติ เอเกน ปริยาเยน อฏฺฐงฺคิกมคฺคํ วิภชิตฺวา ปุน อปเรน ปริยาเยน วิภชิตุกาโม อิทํ เทสนํ อารภิฯ ตตฺถ ทุกฺเข ญาณนฺติ สวนสมฺมสนปฏิเวธปจฺจเวกฺขณวเสน จตูหากาเรหิ อุปฺปนฺนํ ญาณํฯ สมุทเยปิ เอเสว นโยฯ เสเสสุ ปน ทฺวีสุ สมฺมสนสฺส อภาวา ติวิธเมว วฏฺฏติฯ เอวเมตํ ‘‘ทุกฺเข ญาณ’’นฺติอาทินา จตุสจฺจกมฺมฏฺฐานํ ทสฺสิตํฯ

ตตฺถ ปุริมานิ ทฺเว สจฺจานิ วฏฺฏํ, ปจฺฉิมานิ วิวฏฺฏํฯ เตสุ ภิกฺขุโน วฏฺเฏ กมฺมฏฺฐานาภินิเวโส โหติ, วิวฏฺเฏ นตฺถิ อภินิเวโสฯ ปุริมานิ หิ ทฺเว สจฺจานิ ‘‘ปญฺจกฺขนฺธา ทุกฺขํ, ตณฺหา สมุทโย’’ติ เอวํ สงฺเขเปน จ, ‘‘กตเม ปญฺจกฺขนฺธา รูปกฺขนฺโธ’’ติอาทินา นเยน วิตฺถาเรน จ อาจริยสนฺติเก อุคฺคณฺหิตฺวา วาจาย ปุนปฺปุนํ ปริวตฺเตนฺโต โยคาวจโร กมฺมํ กโรติฯ อิตเรสุ ปน ทฺวีสุ สจฺเจสุ – ‘‘นิโรธสจฺจํ อิฏฺฐํ กนฺตํ มนาปํ, มคฺคสจฺจํ อิฏฺฐํ กนฺตํ มนาป’’นฺติ เอวํ สวเนเนว กมฺมํ กโรติฯ โส เอวํ กโรนฺโต จตฺตาริ สจฺจานิ เอกปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ, เอกาภิสมเยน อภิสเมติ ฯ ทุกฺขํ ปริญฺญาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ, สมุทยํ ปหานปฏิเวเธน, นิโรธํ สจฺฉิกิริยปฏิเวเธน, มคฺคํ ภาวนาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติฯ ทุกฺขํ ปริญฺญาภิสมเยน…เป.… มคฺคํ ภาวนาภิสมเยน อภิสเมติฯ

เอวมสฺส ปุพฺพภาเค ทฺวีสุ สจฺเจสุ อุคฺคหปริปุจฺฉาสวนธารณสมฺมสนปฏิเวโธ โหติ, ทฺวีสุ สวนปฏิเวโธเยวฯ